Thursday, October 11, 2007

IMAGINATION

จินตนาการในความคิดของผม ผมคิดว่าจินตนาการนั้นเริ่มต้นที่ความฝัน เหมือนกับว่าเราคิดอะไรก็ได้ไม่มีขีดจำกัด จะมีสาระหรือจะเกินจริงเหนือธรรมชาติแค่ไหนก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความคิดความสามารถของแต่ละคน รวมถึงบริบทรอบๆตัวเราระหว่างนั้น จะเป็นตัวกำหนดทิศทางทางความคิดของแต่ละบุคคล ด้วยการรับรู้ที่ต่างกันคนเราย่อมมีจินตนาการที่แตกต่างกันออกไป เราไม่สามารถที่จะกำหนดวิธีการตายตัวของจินตนาการได้ ประสบการณ์และการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยในการวิเคราะห์หรือเรียบเรียงกระบวนการทางความคิด

จินตนาการ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เป็นคำที่อยู่ภายในกลุ่มของ จินต- , จินต์ ซึ่งเป็นคำกริยา ที่แปลว่า คิด ส่วนคำ จินตนาการ เป็นคำนาม แปลว่า การสร้างภาพขึ้นในจิตใจ

เมื่อย้อนกลับไปที่คำถามว่าคุณเคยเจอกับจินตนาการมั้ย ?
ส่วนผมนั้นผมคิดว่าผมเคยเจอนะ ครั้งหนึ่งผมเคยได้มีโอกาสไปแข่งเกมส์ ( Counter strike เป็นเกมส์ first person shooting ) ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย เราจับฉลากอยู่สายเดียวกับ Sweden ( เป็นที่ 1 ของโลกอยู่ในขณะนั้น ) ก่อนการแข่งขันผมตื่นเต้น ทั้งอยากจะลองวัดฝีมือกันซักตั้งแต่ลึกๆแล้วผมก็กลัวนะ แต่ผมก็คิดว่าไหนๆก็มาถึงนี่แล้วลองกันซักทีไม่แน่นะโชคอาจอยู่ข้างเรา เมื่อถึงเวลาแข่งขันๆจริงๆ ผมก็มีความรู้สึกแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมือไม้สั่นเหงื่อแตกไปหมด บางครั้งมันก็รู้สึกเฮ้ยหน้าอกเรานี่มีธงไตรรงค์แปะอยู่นะจะให้มันมาดูถูกเราตั้งแต่ยังไม่เริ่มได้ยังไง เมื่อเกมส์เริ่มขึ้นสถานการณ์กดดันกลับไปตกอยู่ที่แชมป์โลกเพราะเรานำไปก่อน 5-0 ( เล่นทั้งหมด 30 win ) การที่นำไปก่อน 5-0 ในเกมส์นี้ถือว่าเป็นอะไรที่ได้เปรียบเยอะ แล้วจินตนาการของผมก็เริ่มเกิดขึ้น บวกกับบริบทรอบข้าง ( คนเชียร์เยอะเพราะไม่มีใครคิดว่าไทยสามารถทำได้ขนาดนี้ ) กำลังใจเริ่มมาเพียบ ผมก็คิดว่าเราน่าจะเอาอยู่เราน่าจะชนะพวกนี้ได้ไม่ยากเกินความสามารถ ผมเริ่มตะโกนบอกเพื่อนผมว่า " เฮ้ยเราจะชนะ อย่าไปกลัวมัน " ตรงนี้แหล่ะที่ผมคิดว่ามันจินตนาการ มันมีการบวกกับบริบทต่างๆรอบข้าง ทำให้เกิดทางที่จะเป็นไปได้ หัวสมองผมก็เริ่มคิดไป แต่สุดท้ายเราก็เอาไม่อยู่แพ้ไปแต่มันก็เป็นแมตช์ที่น่าจดจำและทำให้มีการพัฒนาต่างๆมากมาย
จินตนาการตรงนี้ผมคิดว่ามันเป็นการประเมินผลและคาดหวังกับสิ่งที่จะเป็นไปได้ จากบริบทต่างๆที่เกิดขึ้น
ทำให้เกิดการคิดวาดภาพในหัวสมองว่าเราสามารถทำให้มันเป็นจริงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคำว่าจินตนาการกับคำว่าเพ้อฝันมันมีแค่เส้นบางๆกั้นอยู่จนบางครั้งเราสับสนกับมัน



No comments: